Publication Ethics
จริยธรรมและบทบาทหน้าที่ของผู้ที่เกี่ยวข้อง
บทบาทและหน้าที่ของผู้เขียนบทความ เพื่อพิจารณาลงตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสารบริหารธุรกิจ (Duties of Authors)
- ผู้เขียนบทความต้องส่งบทความที่ไม่มีการคัดลอกผลงานทั้งส่วนใดส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดจากเนื้อหาบทความของผู้อื่น รวมถึงบทความที่ส่งจะต้องไม่เคยได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่ หรืออยู่ระหว่างการพิจารณาตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสารอื่น การละเมิดลิขสิทธิ์ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรง
- ผู้เขียนบทความยินดีแก้ไขปรับปรุงรูปแบบและคุณภาพของบทความ ให้ถูกต้องและเหมาะสมตามข้อเสนอแนะเบื้องต้นจากกองบรรณาธิการฯ ก่อนเข้าสู่กระบวนการพิจารณาในขั้นตอนของผู้ทรงคุณวุฒิประเมินบทความจำนวน 3 ท่าน ในลำดับต่อไป
- ผู้เขียนบทความต้องมีการอ้างอิงเอกสาร ผลงานทางวิชาการ ฯลฯ โดยระบุแหล่งที่มาของข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องไว้ในตอนท้ายของบทความเสมอ โดยจัดรูปแบบการอ้างอิงตามที่กองบรรณาธิการฯ ได้กำหนดไว้ อย่างเคร่งครัด
- ข้อคิดเห็นที่ปรากฏและแสดงในเนื้อหาบทความต่าง ๆ ในวารสารบริหารธุรกิจ ถือเป็นความเห็นและความรับผิดชอบโดยตรงของผู้เขียนบทความนั้น ๆ มิใช่เป็นความเห็นและความรับผิดชอบใด ๆ ของกองบรรณาธิการฯ และคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แต่อย่างใด
- ในกรณีที่บทความของผู้เขียนบทความได้รับการตอบรับการตีพิมพ์เผยแพร่ ผู้เขียนบทความยินดีตรวจสอบความถูกต้องเรียบร้อยของรูปแบบและเนื้อหาบทความ ซึ่งกองบรรณาธิการฯ จะจัดส่งให้ผู้เขียนบทความได้พิจารณาแก้ไขปรับปรุงรอบสุดท้าย ก่อนขั้นตอนของการเผยแพร่ทางเว็บไซต์วารสาร และการจัดพิมพ์เป็นรูปเล่มวารสารต่อไป
- ผู้เขียนบทความต้องรับทราบและยอมรับถึงข้อกําหนด และนโยบายในการรับพิจารณาตีพิมพ์เผยแพร่บทความจากวารสารบริหารธุรกิจ เป็นอย่างดีแล้ว
- ผู้เขียนบทความพึงทราบว่า บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการลงตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสารบริหารธุรกิจ ถือเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มิใช่เป็นลิขสิทธิ์ของผู้เขียนบทความแต่อย่างใด
บทบาทและหน้าที่ของบรรณาธิการวารสารบริหารธุรกิจ (Duties of Editor)
- บรรณาธิการเป็นผู้พิจารณาว่า ต้นฉบับบทความที่ส่งเข้ามานั้น มีความเหมาะสม สอดคล้องตรงกับวัตถุประสงค์และขอบเขต (Aim and Scope) ของวารสารบริหารธุรกิจหรือไม่ ในกรณีที่เนื้อหาบทความไม่เหมาะสม สอดคล้องกับวารสารฯ บรรณาธิการต้องรีบแจ้งให้ผู้เขียนบทความได้รับทราบ เพื่อให้ส่งบทความไปพิจารณาในวารสารอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไป
- บรรณาธิการเป็นผู้ส่งต้นฉบับบทความให้กองบรรณาธิการวารสาร เพื่อช่วยพิจารณาคุณภาพเบื้องต้นของบทความที่ส่งเข้ามา ว่าอยู่ในระดับเหมาะสมที่จะส่งต่อให้ผู้ทรงคุณวุฒิประเมินบทความจำนวน 3 ท่าน อ่านพิจารณาในขั้นตอนต่อไปหรือไม่
- หากบรรณาธิการไม่แน่ใจเกี่ยวกับเนื้อหาและคุณภาพเบื้องต้นของบทความเรื่องใด ๆ บรรณาธิการต้องไม่พิจารณาปฏิเสธบทความเรื่องนั้น ๆ ทันทีด้วยใจอคติ โดยอาจพิจารณาขอความเห็นเพิ่มเติมจากกองบรรณาธิการฯ ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านเกี่ยวกับเนื้อหาบทความนั้น ๆ ก่อนเสมอ
- บรรณาธิการและ/หรือกองบรรณาธิการฯ เป็นผู้พิจารณาคัดเลือกผู้ทรงคุณวุฒิประเมินบทความที่มีความเหมาะสมและเชี่ยวชาญในสาขาต่าง ๆ ในการประเมินบทความเรื่องนั้น ๆ โดยจะไม่เปิดเผยชื่อของผู้ทรงคุณวุฒิประเมินบทความหรือผู้เขียนบทความให้อีกฝ่ายหนึ่งได้ทราบโดยเด็ดขาด รวมทั้งบุคคลอื่นที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย
- เมื่อเกิดกรณีที่ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะของผู้ทรงคุณวุฒิประเมินบทความทั้ง 3 ท่าน มีความขัดแย้งกันอย่างมีนัยสำคัญ บรรณาธิการจะเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะดำเนินการในขั้นตอนถัดไปกับบทความเรื่องนั้น ๆ อย่างไรต่อไป เช่น อิงตามข้อเสนอแนะของผู้ทรงคุณวุฒิประเมินบทความท่านใดท่านหนึ่งเป็นสำคัญ หรืออิงตามข้อเสนอแนะเสียงข้างมาก 2 ใน 3 ของผู้ทรงคุณวุฒิประเมินบทความเป็นสำคัญ
- บรรณาธิการเป็นผู้จัดสรรบทความที่ผ่านกระบวนการประเมินคุณภาพบทความและอยู่ในสถานะพร้อมตีพิมพ์เผยแพร่ โดยจะพิจารณาจากเหตุผลหลักคือ ลำดับก่อนหน้าของการส่งบทความ (Queqe) และความน่าสนใจ/ความหลากหลายของเนื้อหาบทความ (Content) รวมถึงเหตุผลในด้านความเหมาะสมอื่น ๆ (Suitability) เป็นสำคัญ
- ในกรณีที่มีเหตุผลสำคัญ ที่อาจจะไม่นำบทความของผู้เขียนบทความเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ลงตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสารบริหารธุรกิจ ในฉบับที่ตามที่ระบุในหนังสือตอบรับให้ได้นั้น บรรณาธิการขอสงวนสิทธิ์ในการนำบทความดังกล่าว ลงตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสารบริหารธุรกิจ ในฉบับต่อ ๆ ไป ตามที่เห็นสมควร โดยบรรณาธิการจะต้องแจ้งให้ผู้เขียนบทความเรื่องนั้น ๆ ได้รับทราบล่วงหน้าก่อนเสมอ
- บรรณาธิการเป็นผู้ควบคุมและให้ความสำคัญต่อการตีพิมพ์เป็นรูปเล่มของวารสารในแต่ละฉบับ รวมถึงการเผยแพร่ทางเว็บไซต์วารสาร ให้มีความถูกต้อง สมบูรณ์ และออกตรงตามกำหนดเวลา อย่างเคร่งครัด
บทบาทและหน้าที่ของผู้ทรงคุณวุฒิประเมินบทความ (Duties of Reviewers)
- ผู้ประเมินบทความมีหน้าที่อ่านพิจารณาความถูกต้องและความน่าสนใจของเนื้อหาบทความ ด้วยใจเป็นกลางและปราศจากอคติ ตลอดจนประโยชน์ที่ผู้อ่านบทความจะได้รับ และพร้อมจะให้คำติชม ข้อเสนอแนะ และแนวทางแก้ไขปรับปรุงบทความที่สร้างสรรค์และชัดเจนในเชิงประจักษ์
- เมื่อผู้ประเมินบทความได้รับการทาบทามในการขอความอนุเคราะห์ช่วยประเมินบทความจากกองบรรณาธิการฯ ผู้ประเมินบทความควรรีบตอบรับการทาบทาม (หรือปฏิเสธการทาบทาม) ด้วยความรวดเร็ว พึงระลึกเสมอว่า ไม่ควรเพิกเฉย ด้วยการไม่แจ้งตอบกลับใด ๆ (ตอบรับหรือปฏิเสธ) ให้บรรณาธิการหรือกองบรรณาธิการฯ ได้ทราบ
- เนื่องจากเนื้อหาบทความในปัจจุบันมีความลึกซึ้งเฉพาะด้านมากยิ่งขึ้น ผู้ประเมินบทความควรตอบรับประเมินบทความที่มีเนื้อหาในข่ายที่ตนมีความเชี่ยวชาญ ซึ่งจะทำให้การประเมินบทความและการให้ข้อเสนอแนะทำได้อย่างเข้มข้นและเต็มกำลังความสามารถ เมื่อพบว่าตนอาจไม่มีความเชี่ยวชาญเนื้อหาในระดับที่มากพอจะวิจารณ์บทความเรื่องนั้น ๆ ได้อย่างมีคุณภาพ ผู้ประเมินบทความควรแจ้งปฏิเสธการประเมินบทความให้บรรณาธิการหรือกองบรรณาธิการฯ ได้ทราบ
- เมื่อผู้ประเมินบทความทราบว่า ไม่สามารถส่งข้อเสนอแนะบทความได้ทันตามเวลาตามที่กองบรรณาธิการฯ ได้กำหนดไว้ ผู้ประเมินบทความควรแจ้งให้บรรณาธิการหรือกองบรรณาธิการฯ ได้ทราบ พร้อมทั้งควรแจ้งกำหนดเวลาใหม่ในการจะส่งคืนข้อเสนอแนะบทความ
- ผู้ประเมินบทความ ไม่ควรสอบถามมายังบรรณาธิการหรือกองบรรณาธิการฯ หรือพยายามเสาะหาข้อมูล (ไม่ว่าจากแหล่งที่มาใด ๆ) เกี่ยวกับผู้เขียนบทความเรื่องที่ตนได้ตอบรับการอ่านประเมินพิจารณาคุณภาพ
- ภายหลังจากการประเมินบทความและให้ข้อเสนอแนะในรอบที่ 1 เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว เมื่อผู้เขียนบทความได้แก้ไขปรับปรุงบทความ พร้อมเหตุผลและคำชี้แจง (จากผู้ประเมินบทความทั้ง 3 ท่าน) กลับมาเพื่อพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง กองบรรณาธิการฯ จะขอความอนุเคราะห์ในการประเมินบทความรอบที่ 2 ซึ่งผู้ประเมินบทความแต่ละท่านจะเป็นผู้พิจารณาการแก้ไขปรับปรุงบทความดังกล่าว (เฉพาะในส่วนของตน) เมื่อพิจารณาแล้วเสร็จ ผู้ประเมินบทความควรแจ้งผลการพิจารณาสุดท้ายให้กองบรรณาธิการฯ ได้รับทราบต่อไป เช่น แจ้งเห็นควรตอบรับการตีพิมพ์เผยแพร่ หรือแจ้งปฏิเสธการตีพิมพ์เผยแพร่ หรือแจ้งข้อเสนอแนะเพิ่มเติมสำหรับการแก้ไขปรับปรุงในรอบที่ 2 (หรือรอบที่ 3, 4) ต่อไป